นโยบายยาเสพติดปี 2566 มีอะไรบ้าง?

ในปี 2566 ที่ผ่านมานี้ มีการยกระดับกฎหมายพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ มาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติดแทน ซึ่งมีความแตกต่างจากกฎหมายเดิมหลายด้านด้วยกัน ซึ่งวันนี้ภูฟ้าเรสท์โฮมจะพาทุกคนไปอ่านสรุปเกี่ยวกับประมวลกฎหมายยาเสพติด พร้อมทั้งนโยบายบำบัดยาเสพติดจากทั้งภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาคเอกชนด้วยเช่นกัน

ประมวลกฎหมายยาเสพติดปี 2566 คืออะไร?

ประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้จะมีความแตกต่างจากพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษและกฎหมายเก่าหลัก ๆ ที่บทลงโทษ ซึ่งไม่ได้เน้นจำนวนปริมาณสารเสพติดที่มีในครอบครอง แต่ศาลจะพิจารณาพฤติการณ์ประกอบด้วย โดยอาจจะส่งผลให้โทษการจำคุกหรือการประหารชีวิตลดลง แต่เน้นค่าปรับที่สูงขึ้น

นอกจากนี้แล้วก็ยังเป็นกฎหมายที่เน้นไปที่การรักษาด้านสุขภาพ สาธารณสุขมากกว่าเพียงแค่ปัญหาในเชิงอาชญากรรม มีการพัฒนาระบบบริหารจัดการผู้เสพให้ครบถ้วนทั้งวงจร ไม่ว่าจะเป็นการค้นหา การคัดกรอง การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสภาพสังคม จนถึงการติดตามผล เพื่อให้โอกาสการใช้ชีวิตกับผู้เสพสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ ภูฟ้าเรสท์โฮมจะนำเอามาตรา 114 มาตรา 115 และมาตรา 116 มาอธิบายให้ได้อ่านกัน

มาตรา 114 ในประมวลกฎหมายยาเสพติด 2566

สำหรับผู้เสพยาเสพติดที่ถูกค้นพบโดยเจ้าหน้าที่ แล้วเลือกสมัครใจเข้ารับการบำบัด จะได้เข้ารับการบำบัดภายในสถานพยาบาลยาเสพติด หากให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีจนสามารถรับรองผ่านการบำบัดได้ ก็จะถือว่าไม่มีความผิด หลังจากนั้นจะต้องเข้าร่วมศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม และมีการติดตามดูแล รายงานผลหลังจากการบำบัด

มาตรา 115 ในประมวลกฎหมายยาเสพติด 2566

ในกรณีที่เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. หรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในการดูแลผู้เสพผู้ติดพบกับผู้ต้องสงสัยว่ามีการเสพยาเสพติด หรือมีไว้ในครอบครอง เจ้าหน้าที่พนักงานจะมีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 115 ดังต่อไปนี้

ตรวจหรือค้นผู้มีพฤติการณ์อันควรสงสัย

ยึดยาเสพติดจากผู้ครอบครองยาเสพติด

สั่งให้บุคคลเข้ารับการตรวจ หรือทดสอบสารเสพติดในร่างกาย

สอบถาม ตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์

สอบถามความสมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา

ให้บุคคลนั้นอยู่ในความดูแลชั่วคราวไม่เกิน 24 ชั่วโมง

บันทึกพฤติการณ์ และส่งให้พนักงานสอบสวนต่อไป

มาตรา 116 ในประมวลกฎหมายยาเสพติด 2566

สำหรับมาตรา 116 ที่ถูกประกาศออกมาใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่การตรวจหาผู้ใช้และเสพสารเสพติด เพื่อเสนอความช่วยเหลือและกระบวนการรักษาอย่างปลอดภัยอีกครั้ง โดยจะมีศูนย์คัดกรอง ซึ่งมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

1.ตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย

2.คัดกรองและประเมินความรุนแรงของการติดยาเสพติด ภาวะความเสี่ยงทางสุขภาพกาย หรือสุขภาพจิต

3.พิจารณาส่งต่อผู้เข้ารับการบำบัดรักษาไปยังสถานพยาบาลยาเสพติดหรือสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด

4.จัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการคัดกรองและข้อมูลอื่นของผู้รับการคัดกรอง

หลังจากนั้น ผู้ป่วยจะเข้ารับการรักษาอย่างครบวงจรจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.คัดกรองและประเมินความรุนแรงของอาการเสพติด

2.บำบัดด้วยยาตามอาการที่เกิดขึ้นขณะทำการถอนยา โดยอยู่ภายใต้ความดูแลของผู้เชี่ยวชาญและทีมแพทย์

3.ฟื้นฟูสมรรถภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

4.ลดอันตรายจากยาเสพติดด้วยการปราบปราม และป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่ชุมชน

5.ติดตามหลังการบำบัดรักษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

การช่วยเหลือจากภาครัฐฯ

ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ (มาตรา 114) หรือผู้ป่วยยาเสพติดที่สมัครใจ (มาตรา 113) หน่วยงานรัฐบาลมีมาตราการในการช่วยเหลือโดยเข้าร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวมถึงมีระบบข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.) ที่ช่วยติดตามผลการรักษาจนเสร็จสิ้นกระบวนการ

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.)

เมื่อเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้รับรายงานเกี่ยวกับผู้ป่วยยาเสพติดแล้ว จะทำการส่งตัวผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือด้วยการส่งตัวผู้ป่วยเข้ารับการตรวจคัดกรองจำแนกประเภทผู้ใช้ยา และส่งตัวเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลที่เหมาะสมต่อไป ผู้ป่วยบางรายจะอยู่ในกลุ่มที่สามารถรักษาได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) โรงพยาบาลทั่วไป (รพท.) และโรงพยาบาลศูนย์(รพศ.) ได้

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เจ้าหน้าที่จะทำการส่งตัวไปยังสถานที่บำบัดรักษายาเสพติดในโรงพยาบาลเฉพาะทางสังกัดกรมการแพทย์และโรงพยาบาลในสังกัดกรมสุขภาพจิต สถานพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

สถานบำบัดรักษายาเสพติดเฉพาะทางสังกัดกรมการแพทย์ ได้แก่

สถาบันธัญญารักษ์ จังหวัดปทุมธานี

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดเชียงใหม่

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดขอนแก่น

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดอุดรธานี

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดสงขลา

โรงพยาบาลธัญญารักษ์ จังหวัดปัตตานี

โรงพยาบาลในสังกัดกรมสุขภาพจิต เช่น

สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรุงเทพมหานคร

โรงพยาบาลศรีธัญญา จังหวัดนนทบุรี

โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่

โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี

โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี


ตั้งแต่เริ่มต้นส่งตัวเข้ารับการคัดกรอง ตลอดการรักษา จะมีการบันทึกประวัติและข้อมูลของผู้ป่วยไว้ในระบบข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.) ซึ่งภูฟ้าเรสท์โฮม จะพูดถึงในหัวข้อต่อไป

ระบบข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.)

ในระบบนี้จะมีข้อมูลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของประเทศ (บสต.) ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูหรือช่วยเหลือ และติดตามผล ผู้ที่ใช้งานระบบนี้จะเป็นเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานพยาบาล โรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง รวมถึงกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหมและหน่วยงานภายนอก

กลุ่มเป้าหมายที่จะมีการบันทึกข้อมูลลงใน บสต.

1.ผู้ป่วยยาเสพติดตามบัญชีรายชื่อของอำเภอตามการค้นหาหรือสำรวจ

2.ผู้ป่วยยาเสพติดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ ม.114

3.ผู้ป่วยยาเสพติดที่สมัครใจ ม.113

4.ผู้ที่อยู่ระหว่างการบำบัดรักษาและประสงค์ขอความช่วยเหลือ

5.ผู้ที่ผ่านการบำบัดรักษาและประสงค์ขอความช่วยเหลือ (โดยผ่านการคัดกรองของศูนย์คัดกรองซึ่งไม่มีความผิดปกติทางความคิดอารมณ์ พฤติกรรม และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามมาตรา 115)

ภาคเอกชนมีส่วนช่วยอย่างไรในการบำบัดผู้ใช้และผู้เสพสารเสพติด?

อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ป่วยคือการเข้ารับการรักษา และการบำบัดจากสถานพยาบาลภาคเอกชน ซึ่งมีตัวเลือกมากมายตามความต้องการ และลักษณะการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเอง อย่างที่ภูฟ้าเรสท์โฮมเอง ก็มีโปรแกรมการบำบัดที่ได้มาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสุข เราเป็นสถานบำบัดเอกชนที่เชี่ยวชาญด้านวิธีเลิกยาเสพติดและถอนพิษอย่างปลอดภัย พร้อมทั้งยังช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้ป่วยได้อย่างรอบด้าน

ด้วยประสบการณ์ของภูฟ้าเรสท์โฮมที่เปิดให้บริการมานานกว่า 10 ปี ทำให้เรามีความเข้าใจโดยเฉพาะเกี่ยวกับผู้ป่วยติดยาเสพติด ส่งผลให้เรามีวิธีบำบัดและวิธีถอนพิษยาเสพติดที่ได้ผลยั่งยืน เราเน้นเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพของผู้ป่วยให้ดีขึ้นทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังมองหา

สถานบำบัดผู้ป่วยยาเสพติด

ที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัยและได้ผลจริง คุณสามารถ

ติดต่อภูฟ้าเรสท์โฮมได้วันนี้ 

เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 063-908-2999 หรืออีเมล contact@phufaenterprise.com

ติดต่อผู้เชี่ยวชาญและรับข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนรับการรักษาที่ภูฟ้าเรสท์โฮม

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนมารักษาที่ภูฟ้า

ครบถ้วนทุกประเด็น กับแผนบำบัดผู้ติดยาเสพติดปี 2566 ที่ภูฟ้าเรสท์โฮมสรุปเอามาให้อ่าน เลิกใช้ยาเสพติดได้อย่างปลอดภัย มีความช่วยเหลือจากหน่วยงานใดบ้าง?


สรุปชัดเจน! นโยบายยาเสพติดปี 2566 มีอะไรใหม่ อะไรน่าสนใจบ้าง? - ภูฟ้าเรสท์โฮม